โดยเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าหน้าร้อนหรือหน้าหนาว ซึ่งลักษณะอาการไอแบบมีเสมหะนี้ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งภูมิแพ้ ไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ และมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ คัดจมูก น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ถ้าหากปล่อยไว้นาน ก็จะส่งผลเสียต่อตัวผู้ป่วย และสร้างความรำคาญใจให้แก่คนรอบข้าง ดังนั้น วันนี้เราจึงมีบทความเรื่องอาการไอมีเสมหะ รักษาได้เพียงแก้ไขให้ตรงจุด มาฝากทุกท่าน ซึ่งมีวิธีการรักษา ดังต่อไปนี้
สาเหตุของไอมีเสมหะ

ไอมีเสมหะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดเฉียบพลันโดยจะมีอาการน้อยกว่า 3 สัปดาห์ และชนิดเรื้อรังโดยจะมีอาการติดต่อกันเกิน 8 สัปดาห์ขึ้นไป (หรือเกิน 4 สัปดาห์สำหรับเด็ก) โดยปกติแล้วระบบทางเดินหายใจจะมีเยื่อเมือกที่ผลิตของเหลวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในทางเดินหายใจ แต่เมื่อเกิดการติดเชื้อขึ้น ร่างกายจะสร้างของเหลวนี้มากขึ้นจนกลายเป็นเสมหะเพื่อช่วยดักจับและขับเชื้อโรคหรือสิ่งระคายเคืองออกไป โดยการไอจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับเสมหะในทางเดินหายใจและปอดออกมานั่นเอง
ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอย่างไข้หวัด โรคภูมิแพ้ หรือโรคหืดหลายรายอาจเกิดอาการไอมีเสมหะร่วมด้วย ตัวอย่างโรคหรือภาวะดังต่อไปนี้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยไอและมีเสมหะเช่นเดียวกัน
- โรคหลอดลมอักเสบ
มักมีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส มีทั้งชนิดเฉียบพลันที่พบได้บ่อย มักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ และชนิดเรื้อรังที่มีอาการนานกว่า 3 เดือน
- ปอดบวมหรือปอดอักเสบ
เกิดจากปอดติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียและมีการอักเสบของถุงลมในปอด อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากไม่รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
เป็นการอักเสบเรื้อรังของปอดและหลอดลม โดยผู้ป่วยมักมีทั้งภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมโป่งพอง
ไอมีเสมหะรักษาได้อย่างไร

การรักษาอาการไอมีเสมหะนั้นแตกต่างกันไปตามสาเหตุ ผู้ป่วยอาจเลือกใช้ยาประเภทต่าง ๆ ด้วยตนเอง เช่น ยาแก้ไอ ยาแก้ไข้อย่างพาราเซตามอล ยาแก้แพ้ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ปกครองไม่ควรซื้อยาแก้หวัดหรือแก้ไอให้เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี รับประทานเอง แต่ควรพาบุตรหลานไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ผู้รับประทานควรเลือกชนิดของยาแก้ไอให้ถูกต้องกับประเภทของการไอ ซึ่งสำหรับผู้ที่มีอาการไอแห้งหรือไอไม่มีเสมหะสามารถเลือกใช้ยาแก้ไอชนิดระงับอาการไอหรือยากดอาการไอ (Antitussives) ส่วนผู้ที่ไอมีเสมหะควรรับประทานยาที่ช่วยให้ร่างกายขับเสมหะออกมาได้ง่ายและไม่คั่งค้างอยู่ในระบบทางเดินหายใจ
ตัวอย่างของยาสำหรับไอมีเสมหะ มีดังนี้
- ยาขับเสมหะ (Expectorants)
ตัวยาจะไปเพิ่มของเหลวในทางเดินหายใจเพื่อช่วยลดความเหนียวข้นของเสมหะ ทำให้ผู้ป่วยขับเสมหะออกจากร่างกายด้วยการไอได้ง่ายขึ้น แต่ในระยะแรกมักมีเสมหะมากขึ้นเนื่องจากสารคัดหลั่งที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อผู้ป่วยไอเอาเสมหะออกมา อาการไอก็จะลดน้อยลง แต่อาจมีผลข้างเคียงอย่างคลื่นไส้ อาเจียน ระคายกระเพาะได้
- ยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
ตัวอย่างของยาละลายเสมหะ คือ ยาเอ็นอะเซทิลซิสเทอีน (N-Acetylcysteine) โดยตัวยาจะช่วยลดความเหนียวและข้นของเสมหะ ทำให้ร่างกายกำจัดเสมหะได้ง่ายขึ้น ยากลุ่มนี้จัดจำหน่ายในหลายรูปแบบและมีทางเลือกใหม่ในรูปของยาเม็ดชนิดฟู่ที่เพียงใส่ยาในน้ำประมาณครึ่งแก้ว รอจนละลายแล้วรับประทานได้ทันที ยาเม็ดฟู่อาจช่วยให้รับประทานได้ง่ายและร่างกายสามารถดูดซึมตัวยาได้ง่ายขึ้น โดยควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมคือ 600 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 1 ครั้ง แม้ยาละลายเสมหะก่อผลข้างเคียงได้น้อย แต่หากมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้อง หรืออุจจาระเป็นสีดำ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
นอกจากการรับประทานยาตามที่กล่าวข้างต้น ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการไอมีเสมหะได้ เช่น ดื่มน้ำเปล่าให้มาก กลั้วคอหรือล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ นอนหมอนสูง ไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ หากมีอาการระคายคอหรือเจ็บคอร่วมด้วยอาจใช้สเปรย์ผสมคาโมไมล์บรรเทาอาการเจ็บคอหรือระคายเคืองภายในคอ โดยอาจผสมน้ำมันหอมระเหยหลากชนิดมาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นยูคาลิปตัสและมะกรูด ซึ่งมีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบระคายเคืองอันเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเจ็บคอ สามารถใช้ได้เมื่อเกิดอาการทันที เพื่อให้การทำงานหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างวันนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมักเป็นรูปแบบสเปรย์พ่นที่ใช้งานสะดวก มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป ผู้ที่มีข้อสงสัยควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้งานเสมอ
ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับบทความที่มีชื่อว่า อาการไอมีเสมหะ รักษาได้เพียงแก้ไขให้ตรงจุด ซึ่งก็หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยให้ใครที่กำลังประสบปัญหาแบบนี้อยู่ รู้จักวิธีการปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม แต่ถ้าหากลองปฏิบัติตามคำแนะนำแล้ว ยังมีอาการไอแบบเดิม หรือรุนแรงมากกว่าเดิมอยู่ ก็แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป
เล่น Slot อย่างไรให้ได้เงินเต็มกระเป๋า วิธีเล่น Slot ให้ได้เงิน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมสล็อตนั้นเป็นหนึ่งในเกมยอดนิยมของทุกประเทศบนโลก เพราะเป็นเกมที่เล่นง่าย ได้เงินไว เงินรางวัลสูง มักจะมีโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อดึงดูดใจให้เล่นเกม Slot ค่อนข้างมาก และไม่ต้องใช้ทักษะอะไรเลยในการเล่น จึงไม่มีเทคนิคพิเศษใด ๆ ที่จะนำมาคาดเดาผลแพ้ชนะได้ ทั้งหมดนั้นใช้เพียงแค่ดวงล้วน ๆ 100% แต่! ไม่ว่ายังไงเกมสล็อตก็เป็นเพียงโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเอาชนะผู้เล่น ดังนั้นจึงมีรูปแบบการทำงานที่สามารถคาดเดาได้บ้าง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับการเล่น SLOT อย่างไรให้ได้เงินเต็มกระเป๋า!
แนะนำบทความที่น่าสนใจ เล่นสล็อตกับ JOKER123 รับสิทธิพิเศษมากมาย!